หัวเว่ยเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นของลูกค้า
ไอที
นายโธมัส โจว ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร หัวเว่ย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพาสมาชิกสมาคมนักข่าวไทย-จีน ชมศูนย์พัฒนานวัตกรรมหรือ OPEN LAB ที่สำนักงานหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย อาคารจีทาวเวอร์ ถึงกรณีพิพาทระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน โดยหัวเว่ย เป็นหนึ่งบริษัทที่อยู่บัญชีห้ามธุรกิจของสหรัฐอเมริกาทำการค้าด้วยนั้น
โธมัส โจว กล่าวว่า หัวเว่ย เข้ามาทำธุรกิจในไทยนานหลายปีแล้ว ปีล่าสุด ได้เสียภาษีให้ประเทศไทย จำนวน 116 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจ้างงานในประเทศไทยมากถึง 8,000 อัตรา
กรณีพิพาทกับ สหรัฐอเมริกาซึ่งจำกัดบทบาททางการค้าของหัวเว่ย เป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ทั่วโลกเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต หัวเว่ย ก็เป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน เรื่องความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ต ต้องแก้ไขด้วยเทคโนโลยี ไม่ใช่แก้ไขด้วยวิถีการเมือง ต้องแยกให้ชัดเจน ระหว่างเรื่องเทคโนโลยีกับเรื่องการเมือง การกีดกันทางการค้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาของความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตได้
โธมัส โจว ระบุว่า วิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต้องใช้เทคโนโลยี โดยกำหนดมาตรฐาน การบริหารและการจัดการให้เชื่อมโยงกัน ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีทั่วโลกต่างเชื่อมโยงตลอดเวลา การที่อเมริกาทำแบบนี้ ไม่เป็นผลดีต่อภาคธุรกิจ แต่กำลังทำลายระบบซัพพลายเชน ทำให้ผู้บริโภคเกิดความกังวล แน่นอนว่า ย่อมมีผลกระทบต่อการขายของเราบ้าง แต่เป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟน
สำหรับหัวเว่ย ได้ติดต่อกับซัพพลายเออร์ตลอดเวลา มั่นใจว่าจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้กลับมาได้เหมือนเดิมในเร็วๆ นี้ กรณีพิพาท ที่เกิดขึ้นโดยรวม กระทบทั่วโลก กระทบผู้ผลิต ทุกคนเดือดร้อน แต่ผลกระทบโดยรวมที่มีต่อหัวเว่ยมีไม่มากนัก ยอดขายทั่วโลก ยังเป็นไปตามเป้าหมาย ยังไม่มีผลกระทบที่เกิดขึ้นชัดเจน ข้อมูลล่าสุด ยอดขายทั่วโลกโตขึ้น 39% เฉพาะเดือนเมษายน ที่ยอดขายลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังโตถึง 25% ยืนยันว่า ยอดขายปีนี้ยังเติบโตแนไม่มีอะไรติดลบ
ทั้งนี้ หัวเว่ยได้เปิดตัวแฟนเพจเฟสบุ๊กหัวเว่ยประเทศไทย เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย เพื่อเป็นอีกช่องทางทำความเข้าใจกับลูกค้าและผู้บริโภค