ข่าว"ปส.-อุตุฯ"เซ็น MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลวางแผนรับมือภัยรังสี - kachon.com

"ปส.-อุตุฯ"เซ็น MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลวางแผนรับมือภัยรังสี
ไอที

photodune-2043745-college-student-s

น.ส.วิไลวรรณ ตันจ้อย เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ( ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ปส. และ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการใช้ประโยชน์ข้อมูลแผ่นดินไหวและข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา กับ กรมอุตุนิยมวิทยา (อต. ) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) โดย ดร.ภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เ


ทั้งนี้เพื่อการปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงาน ซึ่งเจตนารมณ์ของ ปส. ในการลงนาม MOU ครั้งนี้ ทาง ปส. มีหน้าที่กำกับดูแลความความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี เฝ้าตรวจกัมมันตภาพรังสีในสิ่งแวดล้อมและเตรียมการรับมือต่ออุบัติเหตุทางนิวเคลียร์และรังสี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะทำให้ ปส. สามารถใช้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาในการพยากรณ์การแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีที่อาจจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์และรังสีได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ อันจะทำให้สามารถวางแผนรับมือกับผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม


ด้าน ดร.ภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า การลงนาม MOU ในครั้งนี้มีการขยายขอบเขตความร่วมมือจาก MOU ระหว่าง อต. กับ ปส. ฉบับเดิมปี 2549 ที่ให้การสนับสนุนเฉพาะข้อมูลด้านแผ่นดินไหว โดยจะให้การสนับสนุนข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาเพิ่ม อาทิเช่น ปริมาณฝน อุณหภูมิ ทิศทางและความเร็วลม ข้อมูลรังสีและโอโซน


สำหรับข้อมูลที่ ปส. ได้ให้การสนับสนุนนั้น อต. ได้นำไปใช้ในการหาตำแหน่งศูนย์กลางแผ่นดินไหว และมีการวางแผนที่จะนำไปใช้ในการศึกษา วิจัยและพัฒนางานด้านการติดตาม เฝ้าระวังและคาดการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตุนิยมวิทยาและแผ่นดินไหวในอนาคตต่อไป



ทั้งนี้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างสองหน่วยงาน นับเป็นโอกาสในการดำเนินการร่วมกันที่สำคัญยิ่งต่อประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ ทั้งในยามปกติ และเมื่อเกิดภัยจากสภาวะอากาศ แผ่นดินไหวและสึนามิ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานที่พึงมีในอนาคตอย่างต่อเนื่องต่อไป.