ข่าว"ไลน์ทีวี"ชูโมเดลใหม่ดูออนไลน์ก่อนฉายออนทีวี - kachon.com

วันนี้(23  พ.ค.)   นายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์  ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในครึ่งหลังของปีนี้ ไลน์ ทีวี ยังคงเน้นการเพิ่มพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้น รวมถึงการขยายการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ๆให้กับผู้ชม โดยได้เริ่มมีการนำหนังอินเดียมาเริ่มฉายในไลน์ทีวีแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างเจรจานำหนังฮอลิวู้ดมาออกอากาศบนไลน์ทีวีด้วย

 
นอกจากนี้จะเน้นการขยายฐานกลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้ชาย และขยายไปยังต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันสัดส่วนคนดูไลน์ ทีวี สัดส่วน เป็นผู้หญิงประมาณ 60 % กว่าๆ    และผู้ชาย 30 % กว่าๆ และเป็นผู้ชมในเมืองหลวงและหัวเมืองใหญ่ประมาณ 50%  และเป็นคนพื้นที่ต่างจังหวัดประมาณ 50% ขณะเดียวกัยมีแผนที่จะนำไลน์ทีวี มาเป็นฟีเจอร์หนึ่งบนแอพพลิเคชั่นไลน์ เหมือนกับไลน์ทูเดย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานสามารถรับชมผ่านแอพไลน์ได้เลย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร๋จภายในสิ้นปีนี้ ขณะทีการดูผ่านแอพไลน์ ทีวีก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม
 
 
 ล่าสุด ได้ซื้อลิขสิทธิ์รายการ Infinite Challenge ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้ระดับตำนานจากประเทศเกาหลีที่มีเรตติ้งสูงสุดต่อเนื่องยาวนานกว่า 13 ปี มาทำเป็นวาไรตี้ในเวอร์ชั่นไทย โดยร่วมมือกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)  ผู้ผลิตรายการวาไรตี้อันดับ 1 ของไทยที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ มาเป็นผู้ผลิตรายการนี้ทำให้มั่นใจว่าเวิร์คพอยท์จะผลิตคอนเทนต์นี้ออกมาถูกใจกลุ่มผู้ชมอย่างแน่นอน
 
“การนำเสนอรายการ Infinite Challenge ถือเป็นการใช้โมเดลใหม่ ด้วยการนำออริจินัล คอนเทนท์ มานำเสนอก่อนผ่านไลน์ทีวี เมื่อจบแล้วก็จะมีการนำเสนอต่อในช่องเวิร์คพอยท์ ทันที มั่นใจว่าจากการที่เวิร์ค พอยท์มีฐานผู็ชมที่แข็งแกร่ง จะช่วยเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าและแฟนไลน์ทีวีได้มากขึ้น”


นายกวิน กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้มียอดผู้ติดตามของช่องรายการฯ (แฟนแชนแนล) บนไลน์ทีวี สูงกว่า 160,000 คน เรียกได้ว่าเป็น LINE TV Originals ที่มียอดผู้ติดตามของช่องรายการฯ สูงที่สุดในปี 2019 ซึ่งความนิยมอาจจะเริ่มจากกลุ่มคนเมืองทั้งสองแพลตฟอร์มตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะต้นฉบับของรายการนี้ที่เกาหลีเป็นที่นิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนในเมืองที่ชื่นชอบรายการประเภทนี้เป็นทุนเดิม ซึ่งเชื่อว่าเมื่อได้ออกอากาศต่อเนื่องในไทยเรตติ้งจะค่อยๆ ขยับและกระจายทั่วถึงไปทุกกลุ่มเป้าหมายของ ไลน์ ทีวี และช่องเวิร์คพอยท์เหมือนรายการยอดนิยมอื่นๆ แน่นอน
 

ด้าน นาย ชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัล บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  การนำคอนเทนต์จากเกาหลีมาผลิตถือเป็นความท้าทายว่าจะปรับอย่างไรให้เข้ากับคนไทย ซึ่งถือเป็นการร่วมมือผลิต ออริจินัล คอนเทนต์ร่วมกัยครั้งแรก โดยจากเนื้อหาของคอนเทนต์ เชื่อว่าจะช่วยให้ไลน์ทีวีสามารถขยายฐานกลุ่มผู้ชมไปยังต่างจังหวัดได้มากขึ้น ซึ่งที่หลังออกอากาศได้ 4  ตอนถือว่าได้นับผลตอบรับที่ดีมาก โดยมีทั้งหมด 15    ตอน  ซึ่งการที่มี  6 ดาราชื่อดัง เช่น ตุ๊กกี้ และรัศมี แข ก็จะช่วยให้แฟนคลับของดาราเหล่านี้จากที่ไม่เคยดูไลน์ทีวี เริ่มต้นหันมาดูไลน์ทีวีได้
 
 
“ จะมีการโปรโมทผ่านทุกแพลตฟอร์ม หากอยากดูก่อน ดูที่ไลน์ทีวี หรือ หากติดธุระดูไม่ทันก็มาดูต่อที่ เวิร์คพอยท์ ฯลฯ ถือเป็นรูปแบบใหม่ ที่ออกช่องทางออนไลนืก่อน แล้วจากนั้นมาออกทางทีวีต่อ ถือเป็นการออนแอร์ทั้งสองแพลตฟอร์ม  เป็นการส่งเสริมกันและกัน เนื่องจากปัจจุบันคนมีเวลาน้อยลง มีกิจกรรมทำอย่างอื่นมากขึ้น เมื่อไม่สะดวก ก็มาดูที่ไลน์ทีวีได้ ขณะเดียวกันก็ช่วย ให้แบรนด์สินค้าได้ลงทั้งออนไลน์ แลออฟไลน์ด้วย”
 
 
สำหรับรายการ “Infinite Challenge Thailand ซุปตาร์ท้าแข่ง” (อินฟินิต ชาเลนจ์ ไทยแลนด์) มีดาราชื่อดัง   6 คน มาเป็นตัวชูรายการ ไม่ว่าจะเป็น  “ดีเจพุฒ – พุฒิชัย เกษตรสิน”  พร้อมด้วย  ตุ๊กกี้ - สุดารัตน์ บุตรพรม, จียอน - ซอ จียอน, รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น, นิกกี้ - ณฉัตร  จันทพันธ์ และ อุล - ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา  ที่จะต้องมาทำภารกิจ  หรือจะต้องมาแข่งขันกันแบบจริงจัง หากใครแพ้ในเกมนี้  จะต้องถูกทำโทษ โดยจะออนแอร์ทุกวันศุกร์ บน ไลน์  ทีวี เวลา 2 ทุ่ม และรับชมอีกที ที่ช่อง เวิร์คพอยท์ เวลา 3 ทุ่ม