วว.ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เอกชนผลิตเวชสำอางนาโนแฮร์โทนิค
ไอที


จุดเด่นที่สำคัญของผลิตภัณฑ์นี้คือ การใช้วิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยี (Nanoencapsulation) เพื่อกักเก็บและนำส่งสาร safflomin A ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ตรวจพบในดอกคำฝอย โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสามารถช่วยเพิ่มการซึมผ่านสาร safflomin A เข้าสู่ผิวหนังได้ดีกว่าการเตรียมสารสกัดในรูปสารละลายถึง 6 เท่า เนื่องจากมีขนาดหยดอนุภาคภายในน้อยกว่า 50 นาโนเมตร และมีความคงตัวทางกายภาพที่ดี ไม่เกิดการแยกชั้น หลังจากเก็บเป็นระยะเวลา 3 เดือน ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซนเซียส และ 45 องศาเซนเซียส

“...อุตสาหกรรมความงามเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สำคัญและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มูลค่าของตลาดสินค้าความงามทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับประเทศไทยนั้นเป็นศูนย์กลางเวชสำอางอันดับ 3 ของเอเชีย ต่อจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ครอบครองตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกกว่า 97% ของการส่งออกผลิตภัณฑ์เวชสำอางเป็นผู้ประกอบการเวชสำอางรายย่อยและกลุ่ม SMEs เรียกได้ว่าผู้ประกอบการเวชสำอาง SMEs นั้น เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมเวชสำอางของไทยให้ก้าวไกลระดับโลก การถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัยของ วว. สู่เชิงพาณิชย์ในครั้งนี้เป็นความสำเร็จอีกวาระหนึ่งในการนำ วทน.ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมนวัตกรรมและขีดความสามารถการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม...” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ด้านนายวิบูลย์ อัศวะอำนวย กรรมการบริษัทเฮอร์บอนิค จำกัด กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ วว. ประทับใจในการทุ่มเททำงานและความรับผิดชอบของ วว. ในการผลิตผลงานวิจัยออกมามีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเป็นประโยชน์มากต่อสังคมและการประกอบธุรกิจ ในการเพิ่มมูลค่าสมุนไพร ทรัพยากรในประเทศด้วย วทน. สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ผ่านตัวแทนจำหน่ายและระบบออนไลน์ โดยมุ่งตลาดภายในประเทศและอาเซียน