ติงม.44 ยืดหนี้ค่ายมือถือ ปิดโอกาสผู้ประกอบการรายใหม่
ไอที
ทั้งนี้ การใช้มาตรา 44 เป็นการใช้อำนาจที่ขาดความรับผิดชอบ เพราะถ้าอยู่ๆ รัฐยกประโยชน์ให้เอกชนยืดหนี้โดยไม่มีเหตุผลคงต้องเป็นความผิด การใช้มาตรา 44 ทำให้ไม่สามารถฟ้องเอาผิดได้ การยกอำนาจดุลยพินิจให้เลขาธิการกสทช.ยังเป็นการเสี่ยงต่อการทุจริต เพราะเป็นการให้อำนาจมหาศาลเหมือนการให้เช็คเปล่ากับกสทช. เนื่องจากดุลยพินิจที่เลขาธิการมีสามารถกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูลไม่ว่าจะเป็น มูลค่าคลื่น ระยะเวลาการใช้งานคลื่นความถี่ ระยะเวลาการชำระเงินฯ และสุดท้ายที่ประชาชนควรรู้คือผู้เสียหายครั้งนี้คือประชาชน เพราะประชาชนเป็นผู้เสียภาษี ประชาชนจึงเป็นเจ้าหนี้ทางอ้อมของเอกชน การที่ยืดหนี้ให้เอกชนเท่ากับประชาชนเสียโอกาสในการได้ 5จี ในตลาดที่จะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาสู่ตลาด ทำให้การกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของไทยย้อนกลับไปเหมือนสมัยที่อยู่ในระบบสัมปทาน ประเทศไทยเปลี่ยนจากระบบสัมปทานมาสู่ระบบใบอนุญาต ทำให้ย้อนกลับไปสู่ระบบเดิมและทำให้ประเทศไทยห่างไกลไปจากประเทศพัฒนาแล้วเพราะรัฐไทยยังมีปัญหาธรรมาภิบาลที่บกพร่องอย่างร้ายแรง ดังนั้นจึงขอให้ท่านออกมาตรา 44 เพื่อมาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดนี้
ขณะที่นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การให้คลื่น 700 เมกะเฮิร์ตซ กับเอกชนทั้ง 3 รายๆ ละ 15 เมกะเฮิร์ตซ ในจำนวนเงิน 25,000-27,000 ล้านบาทนั้น เป็นความเสียหายของประเทศ ทำให้ระบบการประมูลไม่มี ไม่มีเอกชนรายใหม่เข้ามาได้ และเรื่องนี้ควรเป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ ซึ่งรัฐบาลเก่าไม่ควรทำเรื่องเสียหายกับรัฐขนาดนี้ ในขณะที่มีการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ทำให้การออกความเห็นของประชาชนไม่มี ไม่มีการถ่วงดุลภาครัฐ เป็นการเลือกปฏิบัติเพื่อธุรกิจกับกิจการที่มีกำไรอยู่แล้ว เห็นว่าการช่วยทีวีดิจิตอลก็ช่วยวิธีอื่นได้ โดยไม่ต้องผูกกับเรื่องโทรคมนาคม รัฐบาลต้องออกมาแก้ปัญหากับสิ่งที่พลาดนี้
ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวว่า การที่มาตรา 44 ประกาศออกมาให้ยืดการจ่ายค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ โดยไม่มีดอกเบี้ยนั้น หากเทียบกับประชาชนทั่วไปแล้วถือว่าไม่เป็นธรรม เพราะประชาชนถูกคิดดอกเบี้ย ทำไมรัฐต้องพึ่งและช่วยเพียงแค่เอกชนทั้ง 3 ราย ที่ผ่านมาเคยมีรัฐมนตรีต้องติดคุกเรื่องการแก้ไขสัญญาต่างๆมาแล้ว แต่การแก้ปัญหานี้เป็นการเลี่ยงปัญหาคอร์รัปชั่น เป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของการทำสัญญาโทรคมนาคม และกติกาทางนิติรัฐต่างๆ สิ่งนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคม ส่วนราคาที่กำหนดไม่รู้ว่าคิดราคาเทียบจากอะไร และน่าจะต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น