ข่าวRISEเปิดตัวโปรแกรมเร่งสปีดนวัตกรรม AI สำหรับองค์กร  - kachon.com

RISEเปิดตัวโปรแกรมเร่งสปีดนวัตกรรม AI สำหรับองค์กร 
ไอที

photodune-2043745-college-student-s
 RISE – Regional Corporate Innovation Accelerator สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาค เปิดตัวโปรแกรม AI Accelerator เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  โดยเป็นโปรแกรมเร่งสปีดการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) มาใช้ในองค์กร โดย มุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ และสามารถตอบโจทย์ขององค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ทั้งนี้  RISE ได้ทำงานร่วมกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่ครอบคลุมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก โดยใช้ความเชี่ยวชาญของ RISE ในการนำ AI มาใช้เพื่อพัฒนานวัตกรรมองค์กร เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและนำไปใช้ได้จริง ด้วยการเชื่อมต่อแนวคิดเชิงนวัตกรรมเข้ากับแนวทางปฏิบัติที่ประยุกต์ใช้ได้ในการเร่งสปีดการพัฒนาเทคโนโลยี AI 

โดยโปรแกรม ดังกล่าว มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรม AI ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาร่วมกันพัฒนาโครงการนำร่องต่าง ๆ กับบริษัทชั้นนำในภาคธุรกิจต่าง ๆ เช่น การเงิน & การธนาคาร ประกันภัย พลังงาน และเทคโนโลยีสะอาด เป็นต้น  โดยองค์กรชั้นนำในประเทศไทยที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ ได้แก่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ) บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดยโปรแกรมนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน – กันยายน พ.ศ. 2562  

นายณัฐภัทร ธเนศวรกุล Head of Ventures ของ RISE กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีโดยรวมของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการจัดตั้งวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในองค์กรธุรกิจ จะช่วยให้องค์กรระดับภูมิภาคต่าง ๆ สามารถปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสมและยกระดับผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน 

จากข้อมูลวิจัยของ McKinsey ได้ระบุว่า การปรับใช้ AI จะส่งผลทำให้กำไรของธุรกิจต่าง ๆ ในทุกภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี พ.ศ. 2578 โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา การให้บริการที่พัก & อาหาร และการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 70% นอกจากนี้ มีการคาดว่าการใช้ AI ในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก การเกษตร ป่าไม้ การประมงและการดูแลสุขภาพจะทำให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% 

 "อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้นั้นจะต้องใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง บริษัทส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาทรัพยากรไม่เพียงพอในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ภายในองค์กร และยังไม่สามารถเข้าถึงนักพัฒนา AI ทั่วโลกได้อีกด้วย สภาพแวดล้อมเหล่านี้ คือเหตุผลว่าทำไมโปรแกรม RISE.AI จึงถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับองค์กรต่าง ๆ และนักพัฒนา AI ทั่วโลกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อร่วมกันทำงานที่มีศักยภาพและรักษาความสามารถในการแข่งขันในเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง” นายณัฐภัทร กล่าว 

นายธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสสายงานบริหารเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ปตท.สผ กล่าวว่า   ปตท.สผ ได้วางแผนในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในหลายส่วนที่สำคัญขององค์กร เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจขององค์กร  ซึ่งโปรแกรม RISE.AI  จะช่วยให้ ปตท.สผ ค้นหาสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมาผลักดันนวัตกรรมองค์กรด้าน AI

ด้าน มีนา ซาลิบ ผู้อำนวยการโครงการจาก New York University Tandon Future Labs ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางกลยุทธ์ ของ RISE.AI กล่าวว่า “ โปรแกรม RISE.AI เป็นโอกาสที่ดีที่สุด สำหรับสตาร์ทอัพ ที่ต้องการการขยายตัวและการเติบโตของธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะองค์กรธุรกิจในภูมิภาคนี้ทุ่มการลงทุนในเทคโนโลยี AI เป็นอย่างมาก ดังนั้น ผมจึงสนับสนุนให้สตาร์ทอัพ AI จากทั่วโลกเข้าร่วมกับ RISE.AI ซึ่งถือเป็น Corporate AI Accelerator ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”    

สำหรับสตาร์ทอัพที่สนใจ  ส่งใบสมัครออนไลน์ได้ที่ www.riseaccel.com/ai