'มาสด้า'ยอดขายทะลุ7หมื่นคัน ทำสถิติเติบโต2ปีซ้อน!
ไอที
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยความสำเร็จผลการดำเนินธุรกิจประจำปีงบประมาณ 2561 โดยนายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ประเทศไทย เปิดเผยว่าจากความสำเร็จด้านการดำเนินธุรกิจของมาสด้าในปีนี้ ระหว่างปีปฏิทินหรือ Calendar Year และปีงบประมาณหรือ Fiscal 2 Year มียอดขายใกล้เคียงกันมาก สำหรับปีงบประมาณ FY2018 มียอดขายสูงถึง 70,468 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 25% จากปีงบประมาณFY2017 อยู่ที่ 56,379 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 6.6% สูงสุดเป็นอันดับสองรองจากออสเตรเลีย วันนี้ มาสด้า ประเทศไทยถูกจับตามองจากตลาดทั่วโลกเนื่องจากอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลกสองปีติดต่อกัน ที่สำคัญปริมาณยอดขายที่ทะลุเกิน 70,000 คัน นั้น ยังส่งผลให้ มาสด้า ประเทศไทย ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6ของมาสด้าทั่วโลก ส่วนปีนี้ FY2019 มาสด้าตั้งเป้าไว้ที่ 75,000 คันหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10%
ในขณะที่รถยนต์นั่งมาสด้า2 ยังคงเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนหลักและได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด มียอดขายสูงถึง 48,119 คันเพิ่มขึ้น 36% ขึ้นครองเบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก 11เดือน ติดต่อกัน ในขณะที่รถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปรเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยรุ่นพิเศษ มาสด้าบีที-50 โปร ธันเดอร์ ออกสู่ตลาด ด้วยยอดขายสูงถึง 7,500 คันเติบโตเพิ่มขึ้น 29% รวมทั้งรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5มียอดขายสะสมสูงถึง 6,834 คัน เพิ่มขึ้น 7%ตามมาด้วยรถเก๋งคอมแพคคาร์มาสด้า3ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันมียอดขายสูงถึง 4,852 คันส่วนฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ มาสด้า CX-3ที่แม้จะเจอกับคู่แข่งรอบด้านแต่ก็สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 3,132 คัน และสุดท้ายคือรถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาไฟฟ้าที่เปิด-ปิดเร็วที่สุดในโลก ที่ได้รับยกย่องให้เป็นรถสปอร์ตที่ขับสนุกที่สุดและเป็นแบรนด์ไอคอนระดับตำนาน มาสด้า MX-5 มียอดขายถึง 31คัน
สำหรับยอดขายมาสด้าไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม – มีนาคม2562) มียอดจำหน่ายรวม 16,579 คันยังคงรักษาระดับยอดขายใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 6.3%โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า2 มีจำนวนมากที่สุด 12,460 คันตามมาด้วยรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 1,652 คัน
รถอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้า CX-5 จำนวน 1,021 คันรถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 887 คันรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์มาสด้า CX-3 จำนวน 509 คันและรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 จำนวน 5 คัน
"ปัจจัยหลักสำคัญที่จะกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ในปี 2562เกิดความคึกคักเนื่องมาจากระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มมีการขยายตัว และปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี แนวโน้มการส่งออกเริ่มฟื้นตัวธุรกิจด้านการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เพราะประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจมากที่สุดในโลกของนักเดินทาง กำลังซื้อมีมากขึ้น ธุรกิจหลายอย่างเริ่มขยับตัวมากขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่กำลังใกล้บรรลุผลสำเร็จหรือแม้แต่การเปิดระเบียงเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้เราก้าวไปสู่ศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการเชื่อมโยงการขนส่งระดับภูมิภาค" นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ เผยเพิ่มว่า "ปีนี้ถือเป็นปีที่มาสด้ากำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาสด้าเริ่มวางแผนการสื่อสารไปยังลูกค้าเกี่ยวกับรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นที่ 7 หรือ G7 ซึ่งจะทำการเปิดตัวในครึ่งปีหลัง พร้อมๆกับรุ่นอื่นที่จะทยอยเปิดตัวในปีนี้ รวมแล้วทั้งหมด 6 รุ่นครอบคลุมในทุกเซกเม้นต์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยในปีนี้ ทางมาสดาตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 75,000 คัน ที่ หลายคนอาจมองว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนรุ่นที่จะส่งลงตลาด นับจากนี้เป็นต้นไปมาสด้าจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงแข็งแกร่งต่อไป" ...