ข่าวกสทช.ผนึกกทม. เร่งนำสายไฟลงดิน ชี้ต้องแล้วเสร็จภายใน 2 ปี  - kachon.com

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กรุงเทพมหานคร ในการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยระยะทางที่จะเอาสายไฟและสายสื่อสารลงดินมีระยะทาง 1,260 กิโลเมตร บนถนนสายหลักและถนนสายรองทั่วกรุงเทพฯ (รวมระยะทางดำเนินการสองฝั่งถนน  2,520 กิโลเมตร ) แบ่งการทำงานเป็น 4 ระยะ ทำพร้อมกันทั้ง 4 โซน คือ กรุงเทพฯ ตอนเหนือ กรุงเทพฯ ตะวันออก ธนบุรีตอนเหนือ ธนบุรีตอนใต้ โดยปีแรกตั้งเป้าจะทำให้ได้โซนละ 150 กิโลเมตร 
    
ทั้งนี้ เมื่อการนำสายไฟฟ้าลงดินเสร็จ จะเตรียมการนำสายสื่อสารลงดินตามเป็นระยะ โดยแต่ละระยะน่าจะใช้เวลาช่วงละ 4-5 เดือน อัตราค่าบริการจะคำนวณด้วยอัตราที่เป็นธรรม โดยกสทช. จะหารือเพื่อกำหนดอัตราค่าบริการที่เหมาะสม ส่วนที่บริษัทกรุงเทพธนาคมผู้ดำเนินการได้ขอนกเว้นค่าธรรมเนียมดำเนินการ สำนักงานกสทช. ขอให้กทม. ทำหนังสือแจ้งมาเพื่อนำเข้าพิจารณาในบอร์ดกสทช. ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับเทคโนโลยีท่อร้อยสาย Micro duct จำนวน 14-21 ไมโครดัก มีความแข็งแรง ทนทาน เป็นมาตรฐานเดียวกับมหานครทั่วโลก 
    


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้หารือกับกสทช.มาระยะหนึ่งแล้วและได้ข้อสรุปในวันนี้เกี่ยวกับอัตราค่าใช้ท่อร้อยสาย กทม.ดำเนินการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดินตามแผนพัฒนากรุงเทพฯ ระยะ 20 ปี (2565-2575) เพื่อให้เมืองมีทัศนียภาพสวยงามเป็นระเบียบ เรียบร้อย ไม่รกรุงรังสำหรับการนำสายสื่อสารลงดิน จะขุดวางท่อร้อยสายใต้ทางเท้าลึก 80 เซนติเมตร กว้างไม่เกิน 40 เซนติเมตร ส่วนท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน กฟน.จะขุดวางใต้ผิวการจราจรที่ระดับความลึกประมาณ 4 เมตร ทำการสำรวจและออกแบบโครงข่ายเริ่มการก่อสร้างและติดตั้งโครงข่าย และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือประมาณปลายเดือนพ.ค.2562
    
ทั้งนี้ คาดว่าการนำสายสื่อสารลงดินแล้วเสร็จทั้งโครงการภายใน 2 ปี โดย กทม.และกสทช.จะลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในสัปดาห์หน้า สำหรับการคิดอัตราค่าบริการที่จะคิดกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะคำนวณโดยใช้อัตราอ้างอิงที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่ให้บริการอยู่ที่กิโลเมตรละ 9,600 บาทต่อกิโลเมตรต่อเดือน โดยกทม.จะคำนวณอัตราที่เหมาะสมโดยหารือร่วมกับกสทช.อีกครั้ง