'ทรูมันนี่'ผนึกกูเกิลเปิดช่องทางชำระเงินซื้อดิจิทัลคอนเทนต์
ไอที
วันนี้(29 มี.ค.) น.ส.มนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่(ร่วม) บริษัท แอสเซนค์ มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี วอลเล็ต ในประเทศไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกไม่ต้องพกเงินสด โดยในส่วนของทรูมันนี่ ถือเป็นผู้นำในตลาดอี วอลเล็ต ของประเศไทยด้วยจำนวนยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจำนวน 16 ล้านครั้ง และมีจำนวนผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง(แอคทีฟ) จำนวน 7 ล้านคน เมื่อถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและจุดชำระเงินแบบออฟไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนจุด ถือว่าเติบโตเพิ่มถึง 20 เท่า และสิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 แสนจุด โดยมีเป้าหมายให้ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินสินค้าและบริการต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันทรูมันนี่ดำเนินธุรกิจใน 6 ประเทศ คือ ไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย มีฐานลูกค้าร่วม 21 ล้านราย
ทั้งนี้ล่าสุดทรูมันนี่ ได้ร่วมมือกับกูเกิล ในการเชื่อมต่ออีวอลเล็ต เข้ากับกูเกิลเพย์ เพื่อให้สามารถใช้ทรูมันนี่ ในการชำระเงินเพื่อซื้อดิจิทัล คอนเทนต์ต่างๆ อาทิ เกม แอพ ภาพยนตร์ เพลง และอีบุ๊ค ฯลฯ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต
นายไมเคิล จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่่า 10 ปี ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงไลฟสไตล์ชีวิตคนอย่างมาก ปัจจุบันมีคนใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์ 2,000 ล้านคนทั่วโลก สำหรับในไทยการใช้สมาร์ทโฟนก็มีอัตราการเติบโตมากขึ้นหลังการเกิดขึ้นของ 3 จี ทำให้คนไทยสามทำทุกอย่างผ่านมือถือได้ เช่น ซื้อของ จ่ายเงิน ฯลฯ โดยมีแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นเป็นส่วนสำคัญ นอกจากนี้เรื่องดิจิทัล เพยเม้นท์ในไทยก็มีการพูดถึงกันอย่างมาก ซึ่งการเชื่อมต่ออีวอลเล็ตกับกูเกิลเพย์จะ ช่วยให้ซื้อสินค้าและบริการผ่านกูเกิลเพย์ โดยไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน
ด้านนายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการฝ่่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า คนซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น หนึ่งในนั้น คือ ดิจิทัล คอนเทนต์ เช่น ซื้อแอพ เกม เพลง ฯลฯ แต่การซื้อเหล่านี้ ต้องใช้บัตรเครดิตจึงคิดหาวิธีที่ช่วยให้คนสามารถซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ง่ายมากขึ้น โดยการจับมือกับกูเกิล เชื่อมต่อ อีวอลเล็ต กับกูเกิล เพื่อให้สามารถซื้อดิจิทัล คอนเทนต์ แบบไม่จำเป็นต้องไปเซเว่น เพื่อซื้อบัตรเติมเงิน ทุกคนสามารถใช้ได้ไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่ายใดก็สามารถใช้ ทรู มันนี่ได้
ปัจจุบันลูกค้าที่ 7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ เด็กมหาวิทยาลัย และ คนเริ่มต้นทำงาน โดยใช้งาน ที่นิยม คือ เพื่อเติมเงิน เติมอินเทอร์เน็ต รองลงมา คือ โอนเงิน และ ซื้อสินค้าที่เซเว่น โดยมีอัตราการใช้งานเฉลี่ย 8 ครั้งต่อเดือน และมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 250-300 บาทต่อรายการ และเป็นการใช้จ่ายแบบออนไลน์ ประมาณ 70% และ จ่ายออฟไลน์ เช่นซื้อของเซเว่นและร้านค้าต่างๆ 30% และในปีนี้จะขยายร้านออฟไลน์มากขึ้น เช่น ร้่านอาหารต่างๆ ไปจนถึงร้านข้าวแกง ฯลฯ
“ การเชื่อมฟีเจอร์กับกูเกิลเพย์ ตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกค้าใช้งานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านราย และในอนาคตจะเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อช่วยผลักดันให้สามารถเพิ่มยอมผู้ใช้งานทรูมันนี่ให้ได้ถึง 10 ล้านราย” นายนิรันดร์ กล่าว