ข่าว 'ไอบีเอ็มบล็อกเชนเวิลด์ไวร์' เครือข่ายชำระเงินแบบใหม่  - kachon.com

'ไอบีเอ็มบล็อกเชนเวิลด์ไวร์' เครือข่ายชำระเงินแบบใหม่ 
ไอที

photodune-2043745-college-student-s
 นางสาวปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า  ไอบีเอ็มเปิดตัว “ไอบีเอ็มบล็อกเชนเวิลด์ไวร์” (IBM Blockchain World Wire) เครือข่ายการชำระเงินทั่วโลกแบบเรียลไทม์สำหรับสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล   โดยเวิลด์ไวร์เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแห่งแรกที่รวมระบบข้อความการชำระเงิน (payment messaging) การหักบัญชี (clearing) และการชำระดุล (settlement) ไว้ในเครือข่ายเดียว ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการแลกเปลี่ยนเงินตรา การชำระเงินข้ามประเทศ และการโอนเงิน โดยเปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้ว่าจะใช้สินทรัพย์ดิจิทัลสกุลใดในการชำระดุล

 "เราได้พัฒนาเครือข่ายการชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการโอนเงินและเปิดมิติใหม่ของการชำระเงินข้ามประเทศ อันจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับการเคลื่อนย้ายเงินในประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบนี้มากที่สุด ไอบีเอ็มคาดหวังว่าการสร้างเครือข่ายที่ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลได้หลากหลายประเภท จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินทั่วโลก" 
 
ปัจจุบันเวิลด์ไวร์เปิดให้บริการใน 72 ประเทศ 47 สกุลเงิน และในธนาคาร 44 แห่ง โดยไอบีเอ็มกำลังเดินหน้าขยายเครือข่ายกับสถาบันการเงินทั่วโลก ภายใต้กฎข้อบังคับของแต่ละประเทศที่ทำหน้าที่กำหนดทิศทางในการเปิดใช้บริการ

เวิลด์ไวร์เป็นรูปแบบบริการการชำระเงินข้ามประเทศที่ช่วยลดความซับซ้อน โดยใช้โปรโตคอลของสเตลลาร์ (Stellar) เพื่อให้สามารถโอนเงินจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แทนวิธีการโอนเงินผ่านธนาคารตัวแทนต่างประเทศแบบทั่วไปที่มีความซับซ้อน แนวทางนี้ช่วยลดตัวกลางในการโอนเงิน และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการชำระดุลได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ผ่านการส่งมูลค่าเงินในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล หรือที่เป็นที่รู้จักในนามคริปโตเคอร์เรนซี (crytocurrency) หรือ "สเตเบิลคอยน์" (stable coin) วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหารสภาพคล่อง เพิ่มความคล่องตัวในการตรวจสอบยอดชำระเงิน และลดต้นทุนการทำธุรกรรมโดยรวมให้แก่สถาบันทางการเงิน   

ปัจจุบันเครือข่ายเวิลด์ไวร์สามารถรองรับการชำระดุลโดยใช้สเตเบิลคอยน์สเตลลาร์ลูเมนส์และดอลลาร์สหรัฐได้แล้ว อันเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไอบีเอ็มและสตรองโฮลด์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะนี้ยังมีธนาคารระหว่างประเทศ 6 แห่ง อาทิ ธนาคารบังโก บราเดสโก ธนาคารปูซาน ธนาคารพาณิชย์ริซัล (RCBC) ที่ลงนามในหนังสือแสดงเจตนารมณ์เพื่อจัดตั้งสเตเบิลคอยน์ของตนเองบนเวิลด์ไวร์ และกำลังรอการอนุมัติจากหน่วยงานที่ตรวจสอบและกํากับดูแลต่างๆ ซึ่งจะนำสู่การเพิ่มสเตเบิลคอยน์ในสกุลเงินยูโร รูเปียห์ (อินโดนีเซีย) เปโซ (ฟิลิปปินส์) วอน (เกาหลี) และเรียล (บราซิล) เข้าสู่เครือข่าย โดยไอบีเอ็มจะเดินหน้าขยายอิโคซิสเต็มของเวิลด์ไวร์ตามที่ลูกค้าได้แจ้งความประสงค์เข้ามาต่อไป 
ปัจจุบันเวิลด์ไวร์ยังคงเปิดให้ใช้งานในวงจำกัด และกำลังขยายการใช้งานเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ   สำหรับองค์กรที่สนใจ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ibm.com/blockchain/solutions/world-wire