ข่าว'ซิสโก้'เสนอโซลูชั่นเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล - kachon.com

'ซิสโก้'เสนอโซลูชั่นเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล
ไอที

photodune-2043745-college-student-s


วันนี้(26 มี.ค.)  นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย และ ภูมิภาคอินโดจีน   เปิดเผยว่า ซิสโก้ ได้จัดงาน “ซิสโก้ คอนเน็ค ไทยแลนด์  2019” ภายใต้แนวคิด  "Say Hello to The Future” โดยเป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี และโซลูชั่น ที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนสู่ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยมีลูกค้าและพาร์ทเนอร์เข้าร่วมงานประมาณ 800 คน  ซึ่งในปีนี้มีการนำเสนอเทคโนโลยีใน 5 แกนหลัก คือ 1 เน็ตเวิร์ค  ซึ่งรูปแบบใหม่ของไวไฟที่ใช้มา 20 ปี จะเปลี่ยนไปเป็น ไวไฟ 6(Wi-Fi 6 ) ที่มีความเร็วและส่งสัญญาณได้ระยะไกลเป็นกิโลเมตร จากปัจุบันที่ประมาณ   100  เมตร ทำงานรวมกับ 5   จี เป็นการผสานเทคโนโลยี ช่วยในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไอโอที(อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์)ต่างๆ ซึ่งปีนี้น่าจะได้เริ่มเห็นไวไฟ 6 ในไทย แต่อาจจะยังจำกัดเรื่องอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ต้องสามารถรองรับได้ด้วย

 
2.คลาวด์   องค์กรต่างๆจะมีการใช้งานคลาวด์มากขึ้น ทุกคนต่างย้ายไปยังเทคโนโลยีคลาวด์ จึงต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เลือกใช้ได้คลาวด์ได้มีประสิมธิภาพมากขึ้น 3.  Collaboration  ที่มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อให้สามารถทำงานภายนอกมากขึ้น ช่วยให้สื่อสารระหว่างคนได้สะดวกในทุกที่ อาทิ ห้องประชุมทางไกลที่มีการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ สามารถสั่งงายด้วยเสียง ฯลฯ  ร 4. การเชื่อมต่อ ที่ในอนาคตไม่ได้อยู่กับคอมพิวเตอร์เพียวอย่างเดียว มี ไอโอทีเข้ามา การเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆจะเกิดขึ้นมากแม้แต่หลอดไฟที่มีเทคโนโลยีไอโอที จึงมีแนวคิดว่า ทำอย่างไรจะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นความรู้หรือต่อยอดได้  และ5.ไซเบอร์ซีเคียวริตี้  ที่ปัจจุบันเกการโจมตีของแฮกเกอร์มากมายทุกคนต้องให้ความสำคัญในเรื่องระบบความรักษาปลอดภัย


 
 ทั้งนี้โซลูชั่นที่นำมาจัดแสดง อาทิ  Cisco Realware  อุปกรณ์สวมใส่แห่งอนาคตที่ใช้คำสั่งผ่านเสียงเท่านั้น ช่วยให้การทำงานร่วมกันกับผู้อื่นเป็นไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่นโดยไม่ติดขัด และรองรับเสียงภาษาไทยได้แล้ว ,  Cisco Multi-cloud  ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น องค์กรธุรกิจมี visibility ที่สามารถรับรู้ค่าใช้จ่าย และปริมาณการใช้คลาวด์ว่าใช้ไปจำนวนเท่าไหร่ และเหลืออีกเท่าไหร่ , Cisco WebEx Roomkit Mini มิติใหม่ของการประชุมทางไกลแบบ Co-working Space ที่สามารถเชื่อมต่อ Co-working Space ได้หลายที่พร้อมกัน และทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆได้อย่างราบรื่น

 
และ Cisco DNA Assurance  ประสานข้อมูลการทำงานร่วมกันของระบบ IT infrastructure ปลดล๊อคการแก้ปัญหาระบบเครือข่ายที่ไร้ประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาในการหาสาเหตุของปัญหา ด้วยความสามารถในการทำ Analytic และ Machine Learning บนระบบเครือข่าย Cisco Intent Base Networking  และสุดท้าย คือ   Cisco Threat Response (CTR) นวัตกรรมทางด้านซีเคียวริตี้ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรู้ว่าการโจมตีเกิดจากที่ใดอย่างแท้จริง ซึ่งอาจเกิดจากภายนอกหรือภายในองค์กรธุรกิจ ช่วยสืบสวน วิเคราะห์เส้นทางในการโจมตี ลดระยะเวลาปิดการโจมตี และแนะนำการแก้ปัญหาที่ตรงจุด โดยการประสานข้อมูลจากระบบ Threat Intelligence ต่างๆของ Cisco
 
 
นายวัตสัน กล่าวต่อว่า ทุกโซลูชั่นที่นำมาจัดแสดงพร้อมให้บริการกับทุกองค์กรแล้ว ซึ่งจากการสอบถามผู้เข้าร่วมงานมีความสนใจ คือในเรื่องห้องประชุมทางไกล และCisco Realware  อุปกรณ์สวมใส่แห่งอนาคตที่ใช้คำสั่งผ่านเสียง ซึ่งเหมาะกับอุตสาหกรรมภาคการผลิต ไฟฟ้า เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ฯลฯ ที่สามารถใช้ช่วยในการเทรนพนักงานใหม่ โดยที่สามารถเห็นได้ทั้งภาพและเสียงจากไซต์งานส่งตรงมายังสำนักงานได้ทันที รวมถึงเรื่องไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ที่ทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนตื่นตัว รวมถึงในต่างประเทศด้วย หลังจากมีข่าวเรื่องการแฮกเกอร์ในต่างประเทศที่เกิดความเสียหายจำนวนมาก

 

 อย่างไรก็ตามหลังการเลือกตั้ง แม้จะยังไม่มีการตั้งรัฐบาลในทันที แต่ก็เชื่อว่าในส่วนของภาคเอกชนนั้นการลงทุนอะไรที่ไม่เกี่ยวกับภาครัฐเชื่อว่าคงเดินต่อไปได้ แต่โครงการอะไรที่เกี่ยวข้องภาคเอกชนอาจจะต้องชะลอดูท่าทีรัฐใหม่ก่อน สำหรับในส่วนของซิสโก้เองนั้นตอนนี้มีลูกค้าเอกชนสัดส่วนประมาณ 70% และภาครัฐ 30% ถือว่าเติบโตขึ้นจากในช่วง 2-3 ปีก่อน มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 20% แสดงให้เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐก็มีการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน.