ปณท เล็งตั้งเครื่องอี-เควายซี เพิ่มฟีเจอร์การเงิน
ไอที
Webmaster
2019-03-19 17:22:00
11
Webmaster
2019-03-19 17:22:00
11
-
สนับสนุนเนื่อหา
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปรษณีย์ไทย กล่าวถึงความคืบหน้าของบริการตัวแทนธนาคาร Bank@Post ว่า ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยถือเป็นตัวแทนธนาคารที่รองรับสถาบันการเงินจำนวนมากที่สุดถึง 10 ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทยธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ และธนาคารทหารไทย โดยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถฝาก-โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหล่านี้ได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์เกือบ 1,000 แห่งทั่วประเทศ
“ตลอดปี 2561 มียอดธุรกรรมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2562ในช่วงต้นปีพบว่า ยอดต่อเดือนสูงกว่าปีที่แล้วเป็นเท่าตัวโดยเฉพาะในเขตภูมิภาค ซึ่งสาขาของธนาคารครอบคลุมไม่ถึงในบางพื้นที่ ประกอบกับแนวโน้มการดำเนินงานของธนาคารในปัจจุบัน มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามารองรับพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้ามากกว่าการขยายสาขาเพิ่ม ไปรษณีย์ไทย จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้บริการด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมเข้าถึงทุกพื้นที่ พร้อมกันนี้ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ รับหน้าร้อน ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการฝาก-โอนผ่านบริการ Bank@Postเหลือเพียงรายการละ 5 บาท ทุกธนาคาร ตั้งแต่วันนี้-30 เม.ย.2562 โดยคาดว่าจะทำให้ยอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50 % หรือมากกว่าแสนรายการในช่วงดังกล่าว”
นอกจากธนาคารทั้ง 10 แห่งแล้ว ไปรษณีย์ไทย ยังมีโครงการร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างครอบคลุม ตลอดจนการเพิ่มธุรกรรมการเงินใหม่ๆ เช่น บริการถอนเงิน และการเปิดบัญชี รวมไปถึงโครงการติดตั้งเครื่อง e-KYC หรือเทคโนโลยีการระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในอนาคต หลังจากที่สถาบันการเงินต่างๆ เริ่มนำมาใช้อย่างเป็นทางการ และเมื่อเร็วๆ นี้ ไปรษณีย์ไทย ยังเปิดให้บริการการเงินอีกหลายประเภท ได้แก่ บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านแอพพลิเคชั่น Wallet@Post โดยล่าสุดมียอดใช้บริการเกือบ 1 ล้านรายการ บริการชำระค่าปรับจราจรทุกรูปแบบที่ไปรษณีย์ และเตรียมเปิดบริการเติมเงิน M-Pass รับชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติทั้งมอเตอร์เวย์และทางด่วนอีกด้วย
ทั้งนี้ Bank@Post เป็นบริการตัวแทนธนาคารที่ไปรษณีย์ไทยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเริ่มให้บริการเป็นรายแรกตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ปัจจุบันสามารถฝาก–โอนได้ในวงเงิน 20,000–50,000 บาทต่อรายการขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร โดยไม่ต้องใช้สมุดบัญชี
“ตลอดปี 2561 มียอดธุรกรรมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2562ในช่วงต้นปีพบว่า ยอดต่อเดือนสูงกว่าปีที่แล้วเป็นเท่าตัวโดยเฉพาะในเขตภูมิภาค ซึ่งสาขาของธนาคารครอบคลุมไม่ถึงในบางพื้นที่ ประกอบกับแนวโน้มการดำเนินงานของธนาคารในปัจจุบัน มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามารองรับพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้ามากกว่าการขยายสาขาเพิ่ม ไปรษณีย์ไทย จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้บริการด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมเข้าถึงทุกพื้นที่ พร้อมกันนี้ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ รับหน้าร้อน ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการฝาก-โอนผ่านบริการ Bank@Postเหลือเพียงรายการละ 5 บาท ทุกธนาคาร ตั้งแต่วันนี้-30 เม.ย.2562 โดยคาดว่าจะทำให้ยอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50 % หรือมากกว่าแสนรายการในช่วงดังกล่าว”
นอกจากธนาคารทั้ง 10 แห่งแล้ว ไปรษณีย์ไทย ยังมีโครงการร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างครอบคลุม ตลอดจนการเพิ่มธุรกรรมการเงินใหม่ๆ เช่น บริการถอนเงิน และการเปิดบัญชี รวมไปถึงโครงการติดตั้งเครื่อง e-KYC หรือเทคโนโลยีการระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในอนาคต หลังจากที่สถาบันการเงินต่างๆ เริ่มนำมาใช้อย่างเป็นทางการ และเมื่อเร็วๆ นี้ ไปรษณีย์ไทย ยังเปิดให้บริการการเงินอีกหลายประเภท ได้แก่ บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านแอพพลิเคชั่น Wallet@Post โดยล่าสุดมียอดใช้บริการเกือบ 1 ล้านรายการ บริการชำระค่าปรับจราจรทุกรูปแบบที่ไปรษณีย์ และเตรียมเปิดบริการเติมเงิน M-Pass รับชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติทั้งมอเตอร์เวย์และทางด่วนอีกด้วย
ทั้งนี้ Bank@Post เป็นบริการตัวแทนธนาคารที่ไปรษณีย์ไทยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเริ่มให้บริการเป็นรายแรกตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ปัจจุบันสามารถฝาก–โอนได้ในวงเงิน 20,000–50,000 บาทต่อรายการขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร โดยไม่ต้องใช้สมุดบัญชี
