ข่าวทีโอที ส่งมอบ USO NET ฟรีไวไฟ 1,704 หมู่บ้าน พร้อมเร่งงานที่เหลือ - kachon.com

ทีโอที ส่งมอบ USO NET ฟรีไวไฟ 1,704 หมู่บ้าน พร้อมเร่งงานที่เหลือ
ไอที

photodune-2043745-college-student-s
วันนี้ (17 มี.ค.) นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ. ทีโอที เปิดเผยถึงโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบหมู่บ้านในพื้นที่ชายขอบ Zone C+) หรือโครงการ USO Net สำนักงานกสทช. ซึ่งทีโอทีได้ชนะการประมูลประกวดราคา 3 สัญญาวงเงินรวม 6, 486, 399, 926 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ประกอบด้วย 1. โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) ภาคเหนือมูลค่าโครงการ 2,103,800,000 บาท 2. โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมูลค่าโครงการ 2,492,599,999 บาท 3. โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) มูลค่าโครงการ 1,899,999,927 บาท

ทั้งนี้ทีโอทีได้มีการบริหารและดำเนินโครงการ USO Net ตามสัญญาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและประสงค์ที่จะดำเนินการตามสัญญาต่อไปเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อโครงการฯและประเทศสำหรับการดำเนินการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ทีโอทีได้ดำเนินการทั้ง 3 สัญญาโดยได้ส่งมอบแล้วประกอบด้วยบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงสาธารณะ (ฟรีไวไฟ) จำนวน 1,704 หมู่บ้านและติดตั้งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 567 หมู่บ้านและส่วนที่เหลือเมื่อทีโอทีทำการสำรวจและเข้าดำเนินการแล้วพบข้อจำกัดในการดำเนินโครงการฯ

อย่างไรก็ตาม ทีโอทีต้องบริหารจัดการภายใต้ข้อจำกัดที่หลากหลายจึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการประสานงานและติดตามความชัดเจนจากหลายภาคส่วนรวมทั้งต้องระมัดระวังให้การดำเนินโครงการฯถูกต้องตามระเบียบและสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯโดยข้อจำกัดสำคัญอาทิข้อจำกัดของพื้นที่บริการ (จุดติดตั้งที่อยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ) ข้อจำกัดสภาพพื้นที่/ข้อมูลบริการในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป (ไม่มีพื้นที่เหมาะสมต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการการย้ายสถานที่ติดตั้งบริการหรือเปลี่ยนประเภทบริการ) ข้อจำกัดสภาพภูมิประเทศภูมิอากาศความไม่สงบในพื้นที่บริการและอื่นๆ

ทั้งนี้ ทีโอทีได้นำเสนอข้อจำกัดและแนวทางการบริหารข้อจำกัดการดำเนินโครงการฯเพื่อขอรับความเห็นชอบและนำเสนอเข้าสู่กระบวนการปรับสัญญาให้อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการต่อไปได้แต่เมื่อไม่มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบและไม่มีการเสนอเข้าสู่กระบวนการภายในเวลาที่สอดคล้องกับเงื่อนเวลาที่กำหนดจึงทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคที่สำคัญในการดำเนินการโครงการฯดังนั้นหากได้รับการพิจารณาให้ความเห็นชอบที่ชัดเจนและมีการเสนอเข้าสู่กระบวนการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้วทีโอทีเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการต่อไปจนสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯจวบจนปัจจุบันทีโอทียังรอความเห็นชอบที่ชัดเจนและการนำเสนอเข้าสู่กระบวนการแก้สัญญาเพื่อขจัดข้อจำกัดดังกล่าวให้อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการได้

นายมนต์ชัย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ส่งโครงการเน็ตประชารัฐซึ่งดูแลรับผิดชอบโดย ทีโอที เข้าประกวดเพื่อชิงรางวัล WSIS Project Prize 2019 ซึ่งจัดขึ้นโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU ได้รับการโหวตจากจนติด 1 ใน 5 โครงการพื้นฐานของสารสนเทศและการสื่อสารที่ดีที่สุดของโลก  ซึ่งทีโอที มีความยินดีเป็นอย่างมากที่โครงการเน็ตประชารัฐ ได้รับการโหวตให้เป็นโครงการที่ดีที่สุดหนึ่งโครงการ เนื่องจากโครงการเข้าถึงผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่จนถึงปัจจุบันกว่า 1 ล้านคน และมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มถึง 10 ล้านคนภายในปีหน้า ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงเป้าหมายหลักขององค์กรในการเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 

นอกจากโครงการเน็ตประชารัฐแล้ว ทีโอทียังมีโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการวางโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อีกได้แก่ โครงการทดสอบ 5G (5G Testbed) ในระเบียงพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการ Big Rock โครงการ USO และโครงการติดตั้งระบบโทรคมนาคมงานสำคัญสำคัญของหน่วยงานภาครัฐ ” นอกจากนี้ โครงการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือโครงการ Big Rock ดำเนินงานปรับปรุงโครงข่ายเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังโรงเรียนและโรงพยาบาลของรัฐที่ยังไม่มีการเข้าถึง รวมถึงดำเนินการขยายความจุอินเทอร์เน็ต (Bandwidth) ให้กับโรงพยาบาลเพื่อรองรับการตรวจรักษาทางไกล (Tele-Medicine) 

ส่วนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ คือ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ อันได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา, โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, การพัฒนาโครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3, การพัฒนาโครงการท่าเรือแหลมฉบับ ระยะที่ 3, โครงการพัฒนารถไฟฟ้ารางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ, โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย