ข่าวรัฐเร่งขยายเมืองอัจฉริยะ 24 จังหวัด 30 พื้นที่ในปีนี้ - kachon.com

รัฐเร่งขยายเมืองอัจฉริยะ 24 จังหวัด 30 พื้นที่ในปีนี้
ไอที

photodune-2043745-college-student-s
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นจะนำประเทศไทยเป็นประเทศรายได้สูงที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ความเหลื่อมล้ำน้อย ความเจริญกระจายไปทั่วประเทศ และต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการ วาระเร่งด่วนคือการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ ขณะที่ในกลุ่มเมืองเดิมที่ต้องปรับปรุงให้น่าอยู่ และอัจฉริยะมากขึ้น 



ทั้งนี้ กลุ่มเมืองใหม่ที่จะต้องออกแบบให้สมบูรณ์ ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ  ตามลักษณะของเมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน ตั้งแต่เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) ขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) โดยประเทศไทยมีเป้าหมายเมืองอัจฉริยะคือ ในปีแรกที่ผ่านมา ได้นำร่องเมืองอัจฉริยะ 7 จังหวัด 10 พื้นที่ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ไปแล้ว ปีที่ 2 (2562) จะขยายไปสู่ 24 จังหวัด 30 พื้นที่ และภายใน 5 ปี (2563 - 2565 ) จะขยายไปทั่วประเทศ 77 จังหวัด 100 พื้นที่



อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีแผนจะใช้บิ๊กดาต้าในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะโดยทำ Cuty Data Platform ในเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศเพื่อให้นักพัฒนานำข้อมูลเปิดของแต่ละเมืองไปใช้พัฒนาเมือง โดยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการใหม่ๆให้กับท้องถิ่น โดยจะได้เห็นแพลตฟอร์มดาต้าในเมืองอัจฉริยะภายในปีนี้ เป้าหมายชัดเจนในการเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาทันสมัย โดยประชาชนมีความสุข รักษาวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ สมาร์ทซิตี้จะตอบโจทย์การพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ โดยใหเทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ และสิ่งสำคัญคือการพัฒนาจะต้องเป็นการพัฒนาที่รักษาสิ่งแวดล้อม อากาศ แก้ปัญหาขยะและน้ำเสีย พัฒนาพื้นที่สีเขียว ทำให้เมืองมีความทันสมัย น่าอยู่ ประชาชนสุขภาพดี ปลอดภัย มีสิ่งแวดล้อมดีและรักษาอัตตลักษณ์ไว้ได้

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า การเปิดตัว Smart City วันนี้ เพื่อย้ำความสำเร็จของโครงการนำร่องใน 7 จังหวัดที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว และขอแรงหน่วยงานรัฐ เอกชน ประชาชน สื่อมวลชนมาช่วยงานเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Network) ตั้งแต่มิ.ย.-ส.ค.2562 ซึ่งเป็นซีรีส์ของกิจกรรมด้านเมืองอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วยเครือข่ายเมืองอาเซียน 26 เมือง ร่วมกับเมืองอื่นทั่วโลก และเอกชนรายใหญ่ของโลกมาร่วมแสดงศักยภาพเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย ตอบสนองเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีที่จะชู Smart City เป็นวาระเด่นรับการที่ไทยเป็นประประธานอาเซียนในปีนี้ รวมถึงไทยจะผลักดันเกณฑ์การเป็นเมืองอัจฉริยะ วิธีการและกระบวนการการทำงาน พร้อมคู่มือ ไปสู่อาเซียนในเวทีนี้ เพื่อใช้เป็นไกด์ไลน์ในการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะอาเซียนต่อไป