เปิดเวทีตัวแทนพรรคการเมืองโชว์วิสัยทัศน์นโยบายดิจิทัล
ไอที
นายไกลก้อง ไวทยากร พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัลน่าจะได้แก่กฎหมายที่ทำให้ผู้ลงทุนยังไม่กล้าเข้ามาลงทุน สองปีที่ผ่านมามีการตื่นตัวในการส่งเสริมสตาร์ทอัพ แต่สตาร์ทอัพไทยยังขาดนักพัฒนาที่จะมาสนับสนุนทำให้บริษัทสตาร์ทอัพไทยไปไม่ถึงระดับโลก นอกจากนี้มีความจำเป็นต้องเตรียมตัวรับการมาของปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่จะมาแทนแรงงานมนุษย์ ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอีกเรื่องคือ การพัฒนา digital singles market ของอาเซียนน่าจะเกิดขึ้นเหมือนกับยุโรปมี มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะที่อาเซียนจะมีความร่วมมือกัน เช่น การกำหนดอัตราค่าบริการโทรคมนาคมเป็นอัตราเดียวในการใช้งานในภูมิภาค นโยบายของพรรค การขยายเครือข่ายสายไฟเบอร์ เร่งการพัฒนา 5G ขยายฟรีไวไฟให้เอกชนมาให้บริการ เอาคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน เปิดโอเพ่นดาต้าภาครัฐ เปิดข้อมูลสร้างดาต้าอีโคโนมี่ นำข้อมูลมาขยายมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการศึกษาทดแทนการขาดแคลนเทคโนโลยี การแก้ไขกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล การแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ปฎิรูปองค์กรบังคับใช้กฎหมายเทคโนโลยีทั้งตำรวจไซเบอร์และองค์กรกำกับ เปิดข้อมูลที่มีความสำคัญและมีมูลค่าของภาครัฐให้ประชาชนและสตาร์ทอัพใช้พัฒนาและสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศน์ในการใช้ดาต้าเพื่อการพัฒนา
นายฤภพ ชินวัตร พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยน่าจะได้แก่ช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีที่คนรากหญ้ายังมีช่องว่างในการเข้าถึง กฎหมายหรือระเบียบทางด้านดิจิทัลไปมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงมากกว่าการส่งเสริม คนไทยมีความสามารถแต่ขาดการส่งเสริมถ้ามีทรัพยากรที่ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้น่าจะช่วยในการพัฒนาได้ดีขึ้น สิ่งที่พรรคอยากทำถ้าเป็นรัฐบาลคือเอาเทคโนโลยีมาทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนทำให้มีสมาร์ทซิติเซนต์ คนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นช่วยให้คนรับบริการภาครัฐได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น ส่งเสริมให้รักเรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเรียนได้จ่กทุกทีโดยเชิญครูที่มีความรู้ที่เกษียณอายุไปแล้วมาสอน ทำแอพพลิเคชันและบริการที่ยกระดับเมืองให้เป็นสมาร์ทซิตี้จริงๆ ถ้าทำให้คนเข้าถึงทรัพยากรที่มีอยู่ง่ายขึ้น
นายจุติ ไกรฤกษ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การยกระดับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยปรับปรุงกฎหมายมห้เอื้ออำนวยต่อการบงทุนของเอกชน ส่วนกฎระเบียบในการดูแลความมั่นคงไซเบอร์ควรเป็นกฎหมายมที่เคารพสิทธิของคนมากขึ้นกส่าเรื่องความมั่นคง นอกจากนี้เครือข่ายสารสนเทศที่มีอยู่ต้องควรใช้งานให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ พรรคมองว่าการพัฒนาไอทีตะทำได้ต้องปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค พัฒนาศูนย์ไอซีทีชุมชน ต้างเด็กที่มีประสบการณ์มาช่วยพัฒนาทักษะของประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความรู้ทางด้านไอที สร้างเครือข่ายสื่อสารและคมนาคมให้เชื่อมโยงกันได้ โดยกระทรวงดีอีตะต้องปรับปรุงการใช้งบประมาณให้เหมาะสม สิ่งที่พรรคจะทำในลำดับแรกคือใช้เทคโนโลยีพัฒนาคนเปิดหลักสูตรออนไลน์ จ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง ในศูนย์ไอซีทีชุมชน และแก้กฎหมายที่เป็นข้อจำกัดมนการเอาเทคโนโลยีมาใช้ทำงาน ส่เสริมมห้เกอดเทคโนโลยี 5G โดยการจัดสรรคลื่นให้ความสำคัญกับบริการที่ประชาชนจะได้มากกว่าการประมูลคลื่นราคาแพง
นายณัฐพงษ์ รอบคอบ พรรคท้องถิ่นไทย กล่าวว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมดิจิทัลน่าจะได้แก่ปัญหาความไม่เข้าใจ ความไม่เป็นเอกภาพในการใช้งานเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ความไม่เข้าใจของผู้บริหารที่กำหนดนโยบายไอทีที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเช่น ความพยายามจัดเก็บรายได้จากการทำอีคอมเมิร์ซ อาจทำให้การทำธุรกิจไม่ราบรื่น นโยบายไอทีของพรรคคือการปลดผู้บริหารสูงสุดทางด้านไอทีที่ไม่มีคุณภาพ บูรณาการระบบการทำธุกรรมให้มีเอกภาพ ยุบแอพพลิเคชันที่ไม่ตำเป็นให้เหลือแค่แอพพลิเคชันเดียว เป็นไทยแลนด์แอพพลิเคชัน ส่งเสริมสตาร์ทอัพให้ไปถึงระดับโลก ใช้งานศูนย์ไอซีทีชุมชนให้เป็นศูนย์โอท็อปและฝึกอาชีพ และบูรณาการทางการค้า 24 ชั่วโมง