ข่าวทีโอที หนุนคุณภาพชีวิตให้โรงเรียนด้อยโอกาส - kachon.com

ทีโอที หนุนคุณภาพชีวิตให้โรงเรียนด้อยโอกาส
ไอที

photodune-2043745-college-student-s
วันนี้ (11 ก.พ.) พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสประจำปี 2561 ณ โรงเรียนบ้านป่ากล้วย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส เป็นการสานต่อนโยบายประชารัฐของรัฐบาล โดยเป็นความร่วมมือจากหน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ ที่มีกำลัง ศักยภาพ และจิตสาธารณะจำนวนกว่า  40 บริษัท  ในการพัฒนาโรงเรียนให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม นักเรียนมีคุณภาพชีวิต สุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น มีจิตสาธารณะ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ จะเป็นการคัดเลือกโรงเรียนในระดับหมู่บ้านหรือตำบลที่มีชั้นเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ รวมถึงเป็นแบบอย่างเพื่อการขยายผลให้แก่โรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศเพื่อสร้างความร่วมมือ ร่วมใจ พัฒนาเด็กและเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ซึ่ง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบ
        


​​น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกรรมการ ทีโอที กล่าวว่า โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส  เป็นความริเริ่ม ของพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง โดยทีโอที ได้เข้าร่วมโครงการฯ มาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีนายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที เป็นหัวหน้าคณะทํางานโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตฯ พร้อมด้วยมูลนิธิเทสโก้เพื่อไทย บริษัท 
ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) บริษัท โรงงานไทยแลนด์ นิตติ้ง จำกัด  บริษัท รีเทล บิซิเนส โซลูชั่น จำกัด  องค์การส่งเสริมโคนมแห่งประเทศไทย โดยในปี 2561 ทีโอที รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และได้คัดเลือกโรงเรียนบ้าน
ป่ากล้วยเข้าร่วมเป็นโรงเรียนในโครงการ 

ทั้งนี้ บ้านป่ากล้วย เป็นโรงเรียนระดับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 134 คน คุณครูประจำโรงเรียน 14 คน โดย ทีโอที ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาและปรับปรุงโรงเรียนตามวัตถุประสงค์โครงการ ใน 5 ด้านหลัก คือ 1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยการปรับภูมิทัศน์อาคารเรียน ห้องสุมด และบริเวณโรงเรียน  2. การเสริมสร้างคุณภาพอนามัย โดยปรับปรุงอาคารโรงอาหาร บริเวณล้างมือและภาชนะอาหาร รวมถึงการปรับปรุงห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะ 3. การเสริมสร้างหลักโภชนาการที่ดี โดยการจัดทำแปลงปลูกผัก อุปกรณ์ทำสวนผัก พร้อมจัดหาเมล็ดพันธ์ รวมถึงปรับโรงเรือนเลี้ยงไก่ อุปกรณ์ให้อาหาร และจัดหาอาหารสัตว์ 4. ยกระดับทางวิชาการโดยพัฒนาระบบอินเล็กทรอนิกส์ โดยปรับห้องคอมพิวเตอร์ จัดหาคอมพิวเตอร์ใหม่ พร้อมติดตั้งระบบโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับนักเรียน และ 5 เสริมสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีต่อการใช้ชีวิตของนักเรียน โดยปรับพื้นสนามเด็กเล่น และท่าสีเครื่องเล่น เพื่อให้เด็กๆ ได้พัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ
 


​ด้านนางพิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทีโอที กล่าวว่า ทีโอที ได้ร่วมสนับสนุนมอบสิ่งของต่างๆ ให้กับนักเรียนและโรงเรียน อาทิ จักรยาน ที่นอนสำหรับเด็กอนุบาล ชุดผ้าไทย อุปกรณ์การศึกษาและอุปกรณ์กีฬาให้กับเด็กๆทุกคน รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรร่วมโครงการฯ ที่ได้สนับสนุน ดังนี้  มูลนิธิเทสโก้เพื่อไทย ให้การสนับสนุนทุนการศึกษา บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) สนับสนุนหลอดไฟ บริษัท โรงงานไทยแลนด์ นิตติ้ง จำกัด สนับสนุนเสื้อกล้ามสำหรับเด็ก บริษัท รีเทล บิซิเนส โซลูชั่น จำกัด สนับสนุนชั้นวางหนังสือ และองค์การส่งเสริมโคนมแห่งประเทศไทย สนับสนุนนมพาสเจอร์ไรส์  

ทั้งนี้ โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา ภายใต้แผนแม่บทความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทีโอที พ.ศ. 2560-2564 เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ที่ 4 การให้บริการโทรคมนาคมเพื่อสังคมอย่างทั่วถึง ตอบสนองนโยบายภาครัฐสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ และเป็นเครื่องมือในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ด้านโทรคมนาคมในพื้นที่ห่างไกล ด้านการศึกษา และด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมจากสถานการณ์ในภาวะมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน ดังนั้น เพื่อให้เยาวชนได้มีความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ทีโอที ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่นักเรียนในการป้องกันกรณีประสบกับปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 อาทิ ความรู้วิธีการป้องกันตัวการให้สวมหน้ากาก N95 ป้องกันตัวเอง การลดใช้รถยนต์ ตรวจควันดำ  สนับสนุนใช้ขนส่งสาธารณะ  งดเผาขยะ-วัสดุทางการเกษตร รวมถึงการร่วมรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น