'เอไอเอส'กำไรเฉียด 3 หมื่นล้านปันผล 3.30 บาท
ไอที
สำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 209,300 ราย หรือคิดเป็นกว่า 20% ของการเติบโตของตลาด ทำให้ปัจจุบัน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีลูกค้าจำนวน 730,500 ราย พร้อมทำตลาดต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ Fixed-Mobile Convergence ขณะเดียวกัน เอไอเอส มีการใช้งบลงทุนรวม 20,198 ล้านบาท และบริหารค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทยังคงสร้างผลกำไรต่อเนื่อง เป็นจำนวน 29,682 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน และเสนอจ่ายเงินปันผลคิดเป็น 3.30 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 70% ของกำไรสุทธิ ในวันที่ 18 เมษายน
ปี 2561 เอไอเอส ได้ลงทุนในโครงการสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ทุกหน่วยธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว รวมทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1. การประมูลคลื่นความถี่ 1800MHz เพิ่มเติม เพื่อเสริมศักยภาพด้านโครงข่าย 4G ให้เป็นโครงข่ายที่เร็วที่สุดและมีคลื่นความถี่รองรับมากที่สุด
2. ขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ เพื่อให้บริการ FTTH: Fiber to the Home รองรับการใช้งานของลูกค้าอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ครอบคลุม 57 จังหวัด กว่า 7 ล้านครัวเรือน 3. การซื้อกิจการ CSL เพื่อขยายการทำธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร (Enterprise Business) โดยเฉพาะในงานบริการด้าน Cloud, Managed ICT Service ด้วยแนวคิดผู้นำบริการ ICT เพื่อองค์กรครบวงจร และ 4. จับมือร่วมลงทุนกับพันธมิตรชั้นนำของประเทศอย่าง LINE และ Rabbit ให้บริการ Rabbit LINE Pay เพื่อขยายช่องทางในงานบริการลูกค้าด้าน Mobile Money หรือ e-Wallet ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับในปี 2562 เอไอเอส คาดการณ์การเติบโต โดยมีรายได้เติบโตในระดับ mid-single digit และมีอัตราทำกำไร EBITDA ที่ใกล้เคียงกับปีก่อน เป็นผลจากการใช้งาน 4G และการขยายบริการอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ โดยตั้งเป้าหมายลูกค้า 1 ล้านราย ภายในปีนี้ รวมถึงผลักดันการดำเนินธุรกิจบริการแก่กลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งในบริการ Data Service, Cloud และ Managed ICT พร้อมวางงบประมาณการลงทุนไว้ 20,000-25,000 ล้านบาท เพื่อเสริมโครงข่าย 4G ให้มีคุณภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีโครงข่ายที่สามารถรองรับการต่อยอดไปสู่การใช้งาน 5G