เปิดพ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ ไฟเขียวเปลี่ยนมือผู้รับใบอนุญาตได้
ไอที
อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายใหม่ กสทช.จึงต้องรับผิดชอบคลื่นความถี่และสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียม และมีหน้าที่หาผู้ประกอบการมาดำเนินการ โดยกสทช.มีอำนาจออกประกาศหลักเกณฑ์ในการใช้วงโคจรดาวเทียม ส่วนการดำเนินในการให้บริการ เพื่อให้การจัดการดาวเทียมสมบูรณ์ กสทช. ยังมีอำนาจในการออกประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการอนุญาต และการเก็บค่าธรรมเนียมดาวเทียมระหว่างประเทศ และกสทช.ต้องออกแผนแม่บทในการบริการสิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม การปรับปรุงกฎหมายยังให้อำนาจกสทช.ดูแลกิจกิจการดาวเทียมอย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ ประเด็นที่กฎหมายให้ความชัดเจนการกำกับกิจการดาวเทียม ได้เขียนให้กสทช ทำหน้าที่หน่วยงานของรัฐกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) และองค์กรอื่นทั้งหมด ส่วนการกำหนดสัดส่วนการใช้คลื่นความถี่สำหรับบริการสาธารณะ โดยกสทช.กำหนดการใช้คลื่นขั้นต่ำไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 (เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 20) สำหรับการถอดถอน กสทช. รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ให้อำนาจถอดถอนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
อีกทั้ง สนช.ได้เพิ่มเติมบทบัญญัติให้กสทช.กำหนดเลขหมายฉุกเฉินแห่งชาติให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และอนุญาตให้ใช้งานคลื่นความถี่รองรับการหลอมรวมทางเทคโนโลยี โดยกสทช.จะเป็นผู้ออกประกาศในการใช้คลื่นความถี่ ทั้งนี้ กฎหมายกำหนดว่าต้องการใช้งานคลื่นความถี่ในกิจการที่มีการหลอมรวมกสทช.ต้องเสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อขออนุญาตให้ดำเนินการได้ ประเด็นสุดท้าย คือกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องการโอนสิทธิในใบอนุญาตที่ได้รับไป แต่ต้องให้กสทช.ออกหลักเกณฑ์ในการโอนสิทธิการใช้คลื่นความถี่ก่อน
“ภายใน 6 เดือนหลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา กสทช.ต้องรายงานความคืบหน้าต่อรัฐบาลและรัฐสภาทราบถึงในการทำร่างหลักเกณฑ์การใช้คลื่นความถี่ในการบริการหลอมรวม ซึ่งอาจจะเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการกิจการโทรทัศน์มีความร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้”