วิสัยทัศน์แห่งการคมนาคม
ไอที
รถยนต์ไฟฟ้านั้นได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีขนาดเล็ก และมีระบบสาธารณูปโภครองรับอย่างพร้อมสรรพ อาทิ เกาะฮ่องกง เป็นต้น แต่ด้วยราคาเริ่มต้นที่สูง จึงทำให้คนจำนวนมากยังไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ ดังนั้นจึงมีความพยายามที่จะหาทาง “ใช้งาน” รถไฟฟ้าให้คุ้มราคาค่าตัวมากที่สุด อันเป็นที่มาของรถแนวคิดในวันนี้ นั่นก็คือ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ วิชั่น เออร์เบิร์นเนติก” (Mercedes Benz Vision Urbanetic) รถแนวคิดเพื่อการคมนาคมขนส่งในเขตเมืองสุดล้ำ
แนวความคิดของ วิชั่น เออร์เบิร์นเนติกนี้ก็คือการสร้างรถสาธารณะไร้มลพิษ ที่พร้อมจะวิ่งได้ทั้งวันทั้งคืนแบบอัตโนมัติ โดยใช้รับส่งผู้โดยสารในช่วงเวลาเร่งด่วน และให้บริการขนส่งสินค้าในเวลาที่ไม่มีคนใช้บริการ ในแชสซีเดียวกัน แตกต่างกันที่ตัวถังรถที่สามารถปรับเปลี่ยนได้
เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2561 ในกรุงโคเปนเฮเกน และล่าสุดนี้ได้ไปเปิดตัวให้คนอเมริกันได้เห็นในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ซีอีเอส 2019 ที่เมืองลาสเวกัส ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับรถวิชั่นเออร์เบิร์นเนติก เพราะลาสเวกัสเป็นเมืองที่ไม่มีการหลับใหล
ดังเช่นรถแนวคิดพลังไฟฟ้าร่วมสมัยแบบอื่น วิชั่น เออร์เบิร์นเนติกสร้างขึ้นบนแชสซีแบบ “สเกตบอร์ด” ที่มีชุดแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนรวมถังคอมพิวเตอร์ควบคุม แบบ “อัตโนมัติไร้คนขับ”แยกออกจากตัวถังที่สามารถเลือกได้ระหว่าง “โมดูลรับส่งคน” และ “โมดูลขนส่งสัมภาระ” โดยตัวรถนั้นจะมีความยาว 5.14 เมตร และในแบบขนส่งสัมภาระนั้น จะสามารถขนของที่มีความยาวมากถึง 3.70 เมตรได้อีกด้วย
ในระหว่างช่วงเวลาเร่งด่วน ในเวลาเช้า หรือเย็น วิชั่น เออร์เบิร์นเนติกจะปรากฏตัวในแบบรับส่งคน ภายใต้รูปทรงของรถตู้ไร้คนขับ ที่รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 12 ที่นั่งในแบบปันใช้หรือคาร์แชร์ริ่ง ที่สามารถจะไปรับและส่งผู้โดยสารในจุดหมายที่แตกต่างกันผ่านการคิดคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์อัจฉริยะที่สามารถจะวางแผนเส้นทางได้อย่างอิสระ
ส่วนในช่วงเวลาที่ไม่มีผู้โดยสาร อาทิกลางดึก วิชั่น เออร์เบิร์นเนติกจะถอดห้องโดยสารออกแล้วแทนที่ด้วยตู้คอนเทเนอร์ขนาดความจุ 10 ลูกบาศก์เมตร และพร้อมจะออกวิ่งส่งของไปอย่างเงียบเชียบได้ด้วยตนเอง
แน่นอนว่ารูปแบบของรถแนวคิดในลักษณะนี้ไม่ได้เป็นรถส่วนตัว แต่เป็นรถที่ให้บริการสาธารณะในรูปแบบใหม่ ส่วนจะสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมืองได้มากน้อยเพียงใด อันนี้ต้องลองติดตามดูต่อไป.
----------------------------------
ภัทรกิติ๊ โกมลกิติ.