ข่าวอีริคสัน คาดปี67 คนทั่วโลกใช้ 5จี สูงถึง 1.5 พันล้านราย - kachon.com

วันนี้ (21 ม.ค.) ที่อาคารซัน นายไมเคิล บียอน หัวหน้างานฝ่ายวิจัย ห้องปฎิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภคและอุตสาหกรรมของอีริคสัน กล่าวว่า รายงานจากห้องปฎิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภคของอีริคสันระบุถึง 10 แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตัล ปี 2562 และในอนาคต ประกอบด้วย เครื่องรับรู้อัจริยะ กว่า 60% ของผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นส์ผู้ช่วยส่วนตัวคิดว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีจะสามารถรับรู้และเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้ใช้ได้, ผู้ตอบโต้ที่ชาญฉลาด กว่า 65% ของผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นส์ผู้ช่วยส่วนตัวคิดว่าอุปกรณ์อัจฉริยะจะสามารถโต้เถียงได้เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า, แอพพลิเคชั่นส์สอดแนม คาดว่า 45% ของผู้บริโภคคิดว่าแอพพลิเคชั่นส์จะเก็บข้อมูลของผู้ใช้ แม้กระทั่งตอนไม่ได้เปิดใช้แอพก็ตาม, บังคับให้ตอบตกลง ผู้บริโภคกว่า 51% จะรู้สึกรำคาญที่จะต้องตอบตกลงให้ cookie เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวตลอดเวลา, ทักษะทางอินเตอร์เน็ต 50% ของผู้ใช้งาน AR หรือ VR ต้องการใช้แอพพลิเคชั่นส์ แว่นตา หรือถุงมือที่สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เช่น โปรแกรมสอนทำอาหาร หรือซ่อมแซมสิ่งของต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือน  

การบริโภคแค่เพียงปลายนิ้ว ผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นส์ผู้ช่วยส่วนตัวราวครึ่งหนึ่ง ต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจ่ายบิล รวมทั้งซื้อของใช้ภายในบ้านแบบอัตโนมัติ, ผู้ช่วยในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจำนวน 31% คิดว่าอีกไม่นานคงจะต้องใช้บริการ ศูนย์ฝึกความคิด เพื่อฝึกทักษะทางด้านความคิด เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีอัตโนมัติเข้ามาแทนที่การตัดสินใจในชีวิตประจำวันของมนุษย์ไปหมดแล้ว , รักษ์โลก ผู้บริโภคจำนวน 39% ต้องการใช้นาฬิการักษ์โลกที่สามารถวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาในแต่ละวันได้, ฝาแฝดดิจิตัล ผู้ใช้งาน AR หรือ VR ร้อยละ 48 ต้องการมีฝาแฝดเสมือนจริงที่เหมือนกับตัวเขาแบบชนิดที่แยกไม่ออก เพื่อที่พวกเขาจะสามารถแยกกันอยู่สองที่ได้ในเวลาเดียวกัน   และ ชุมชน 5จี ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนร้อยละ 20 เชื่อว่า 5จี จะทำให้อุปกรณ์ IoT เชื่อมต่อกันได้ดีกว่า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน หรือสมาร์ทมิเตอร์ในอุปกรณ์สาธารณูปโภคเป็นต้น 

นายวุฒิชัย วุฒิอุดมเลิศ หัวหน้างานฝ่านเน็ตเวิร์คโซลูชั่น บริษัทอีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า รายงานอีริคสัน Mobility Report ฉบับล่าสุด คาดการณ์ว่าผู้สมัครใช้งาน 5จี จะสูงถึง 40% ของจำนวนประชากรโลก และจำนวนผู้สมัครใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่จะแตะถึง 1.5 พันล้านรายภายในปี 2567 ทำให้ 5จี เป็นเทคโนโลยีที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในระดับโลก ทั้งนี้ปัจจัยหลักในการนำ 5จี มาใช้ประกอบด้วยประสิทธิภาพของเครือข่าย ค่าใช้จ่ายต่อกิกกะไบต์ และความต้องการนำไปใช้งานใหม่ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์อีกว่าภูมิภาคอเมริกาเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นผู้นำในการใช้ 5จี ซึ่งคาดว่าในภูมิภาคอเมริกาเหนือจะมีการสมัครใช้งาน 5จี สูงถึง 55% ของการสมัครใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด ภายในปี 2567 ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือมีตัวเลขอยู่ที่ 43% ส่วนในภูมิภาคยุโรปตะวันตก มีการคาดการณ์ว่า 5จี จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 30% ของการสมัครใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภูมิภาคภายในปี 2567

สำหรับจำนวนการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ IoT ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ (cellular IoT) ทั่วโลกนั้น จะถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีที่เรียกว่า NB-IoT และ Cat-M1 โดยคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนการเชื่อมต่อของ cellular IoT ถึง 4.1 พันล้านภายในปี 2567 โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 2.7 พันล้าน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นจริงจังและขนาดของตลาด cellular IoT ในภูมิภาคนี้ ดังนั้นผู้ให้บริการที่มีความพร้อมในเทคโนโลยี NB-IoT และ Cat-M1 จะทำให้เกิดความหลากหลายและการพัฒนาสำหรับการใช้งานใหม่ๆ ในวงกว้างของตลาดนั้น จีนเป็นตลาดหลัก ส่งผลให้ปริมาณการใช้ข้อมูลเติบโตขึ้น 79% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 และไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ปริมาณการใช้ข้อมูลในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 เติบโตขึ้นถึง 79% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2556 ปริมาณการใช้ข้อมูลต่อสมาร์ทโฟน 1 เครื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะประเทศจีน เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ตัวเลขของระดับโลกสูงขึ้นอย่างมาก 

ด้วยตัวเลขปริมาณการใช้ข้อมูลตั้งแต่ปลายปี 2560 ถึงปลายปี 2561 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึงร้อยละ 140 ทำให้ภูมิภาคนี้มีปริมาณการใช้ข้อมูลต่อสมาร์ทโฟน 1 เครื่องเท่ากับ 7.3 กิกกะไบต์ต่อเดือน สูงเป็นอันดับสองของโลก ซึ่งเทียบเท่ากับการดูวีดีโอที่มีความละเอียดสูงผ่านสตรีมมิ่งถึง 10 ชั่วโมงต่อเดือน สำหรับภูมิภาคอเมริกาเหนือยังคงเป็นภูมิภาคที่มีปริมาณการใช้ข้อมูลต่อสมาร์ทโฟนมากที่สุด สูงถึง 8.6 กิกกะไบต์ต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเทียบเท่ากับการดูวีดีโอที่มีความละเอียดสูงผ่านสตรีมมิ่งถึง 12 ชั่วโมงต่อเดือน

ระหว่างปี 2561-2567 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการใช้ข้อมูลโดยรวมเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งเครือข่าย 5จี ที่มีแนวโน้มว่าจะมีสัดส่วนถึง 25% ภายในระยะเวลาดังกล่าว อีริคสันคาดว่าอัตราการเติบโตและการครอบคลุมของ 5จี จะมีแนวโน้มว่าจะมาเร็วกว่าเทคโนโลยีรุ่นก่อน ในขณะเดียวกันจำนวนอุปกรณ์ cellular IoT ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่จะส่งผลกระทบไม่เพียงแค่ในตลาดผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรมในวงกว้าง

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ธุรกิจสื่อสารไร้สายที่ประสบความสำเร็จถือเป็นรากฐานสำคัญของผู้ให้บริการด้านการสื่อสารที่จะก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่จาก 5จี อย่างไรก็ตาม 4จี ยังคงเป็นเทคโนโลยีหลักและเป็นพื้นฐานของ 5จี ผู้ให้บริการในประเทศไทยที่ต้องการเป็นผู้นำตลาด ควรเปิดโอกาสทางธุรกิจจากอุตสาหกรรมภาคต่างๆ ในวงกว้าง ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ให้บริการด้านเครือข่ายเท่านั้น โดยในประเทศไทยเราประเมินว่าเทคโนโลยี 5จี จะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ให้บริการได้สูงขึ้นถึง 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 22% ของรายได้ที่คาดการณ์ไว้ภายในปี 2569 โดยอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และความปลอดภัยด้านสาธารณะ จะเป็นภาคส่วนที่ผู้ให้บริการสามารถสร้างรายได้จาก 5จี ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการจำเป็นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับ 5จี เพื่อประโยชน์ของคนในประเทศไทยต่อไป