ข่าวเอ็ตด้า เปิดตัว 'Young Talent Platform'  ปั้นผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก - kachon.com

เอ็ตด้า เปิดตัว 'Young Talent Platform'  ปั้นผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก
ไอที

photodune-2043745-college-student-s
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า (ETDA) นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ เอ็ตด้า เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.– 2 ก.พ.2562 จะจัดงาน Thailand e-Commerce Week 2019 เป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด e-Commerce In The Park, e-Commerce is now #หาเงินก่อนไม่รอแล้วนะ ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร พร้อมเปิดตัว “Young talent Platform” รองรับ e-Commerce Park ที่จะเป็นศูนย์กลางด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจรแห่งแรกในไทย โดยได้รับเกียรติจากพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “The Core Value and Beyond of e-Commerce Park for everyone”และมอบรางวัล “Thailand e-Commerce Awards: People’s Choice 2019” สำหรับสุดยอดธุรกิจออนไลน์ขวัญใจคนไทยแห่งปี ให้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่ได้รับรางวัลด้วย



สำหรับไฮไลท์ของงาน ได้เปิดตัว “Young talent Platform” เพื่อรองรับWorkforce โดยระดมสมองจาก กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ Start up ต่างๆ และจะเป็นPlatform แรกของประเทศ ที่จะเป็นศูนย์กลางทางด้าน e-Commerce อย่างครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจe-Commerceหางาน หาเงินทุน จับคู่ธุรกิจ สื่อการเรียนรู้ออนไลน์ e-Leaning พร้อมกับเชื่อมต่อกับ e-Marketplace รวมทั้งให้บริการจดทะเบียนธุรกิจของภาครัฐ สร้าง Community ให้ Young Talent ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันก็ให้บริการด้าน e-Commerce เช่นLogistics, Payment, Online Marketing

นอกจากนี้ ได้มีการจำลองบรรยากาศ e-Commerce Park  ที่จะเป็นศูนย์กลางในสนับสนุนอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ ตลอดจนธุรกิจ SMEs และอำนวยความสะดวกต่อผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยการสร้างองค์ความรู้และเครือข่ายธุรกิจ อันจะช่วยยกระดับการแข่งขันให้มีมาตรฐานและทัดเทียมระดับสากล ทั้งยังเป็นการสร้างแรงจูงใจในการรวมตัวกันของผู้ประกอบการในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน ซึ่งการจัดตั้ง e-Commerce Park นี้เกิดจากการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ETDA กับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่จะร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยในงาน Thailand e-Commerce Week 2019  จะมีการขยายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาอื่น ในระดับอุดมศึกษา เพื่อรับรองการสร้างกำลังคน สำหรับอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย โดย มี มศว เป็นต้นแบบ รวมทั้งมีการแถลงข้อมูลและ Global Trend ที่จะบอกว่าไทยอยู่ตรงไหนของตลาดโลก

 “ETDA มีแนวคิดในการสร้าง e-Commerce Park ของไทยขึ้น โดยมีต้นแบบจากจีน ที่มี e-Commerce Park กว่า 2,000 แห่ง ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ETDA ได้ทำ MOU กับ “ตงกวน” เมืองอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ของจีนเพื่อแลกเปลี่ยนบุคลากร และประสบการณ์ระหว่างกัน โดย e-Commerce Park ที่ มศว นี้ นอกจากจะมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ ฝึกอบรม จัดทำโครงการต่าง ๆ และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ให้สามารถส่งออกไปยังตลาดโลกได้แล้ว เอ็ตด้า ยังให้ความสำคัญในเรื่องของตลาดแรงงาน โดยได้เตรียมทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในประเทศหลายแห่ง ให้จัดส่งนักศึกษาที่จบใหม่ หรือนักศึกษาที่ต้องการหารายได้ระหว่างเรียน เข้ามาร่วมกับ e-Commerce Park เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่และคำแนะนำ ให้กับผู้ผลิตหรือประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้และความเข้าใจในการขายสินค้าออนไลน์อย่างถูกต้องและมั่นคงปลอดภัย” นางสุรางคณา กล่าว

งาน Thailand e-Commerce Week 2019 ได้รวบรวมทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ อาทิ Shopee Thailand, LNW ผู้ให้บริการรับชำระเงิน เช่น ธนาคารกรุงเทพ ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้า เช่น Kerry, ไปรษณีย์ไทย ผู้ให้บริการด้านการทำการตลาดดิจิทัลผู้ให้บริการหีบห่อสำหรับบรรจุสินค้าเพื่อจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร หรือแม้กระทั่งผู้ให้บริการด้านการถ่ายภาพสินค้า นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโชว์เคสสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งจะมีพื้นที่สำหรับขายสินค้าของเอสเอ็มอีที่เน้นทำตลาดออนไลน์มาจัดแสดงสินค้า และจำหน่ายภายในงานด้วย

สำหรับภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2561 นั้นคาดการณ์ผลสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยยังมั่นใจว่าผู้ใช้งาน e-Commerce ไทยยังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยมูลค่าการเติบโต e-Commerce ในปี 2560 มีมูลค่าประมาณ 2.81 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ปี 2561 มั่นใจว่าจะมีมูลค่าสูงแตะที่ 3 ล้านล้านบาทแน่นอน นอกจากนี้ยังพบว่าคนไทยมีความเชื่อมั่นในการ ชอปปิ้งออนไลน์ เลือกซื้อและมองหาบริการใหม่ ๆ  สูงมากขึ้น เป็นผลให้ในปี 2560 เป็น ปีแรกที่การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านออนไลน์ ติด Top 5 กิจกรรมบนโลกออนไลน์ของผู้บริโภคในประเทศไทย และต่อเนื่องมาถึงปี 2561 ซึ่งเกิดจากการเข้ามาแทรกแซงของเทคโนโลยี (Disruptive Technology ) มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนยุคปัจจุบันให้ต่างไป รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านสังคมไทยไปสู่สังคมดิจิทัล นับเป็นช่องทางใหม่ที่จะสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ไว ทันกับกระแสการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง