'ช้อปปี้' เผยอินไซต์เจาะลึกพฤติกรรมผู้ขาย
ไอที
Webmaster
2019-01-12 16:00:00
33
Webmaster
2019-01-12 16:00:00
33
-
สนับสนุนเนื่อหา
ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เปิดเผยข้อมูลอินไซต์ที่น่าสนใจล่าสุดเกี่ยวกับผู้ขายบนแพลตฟอร์ม พร้อมเดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ขายชาวไทยต่อเนื่องในปีนี้ โดยในปี 2561 พบว่า ช้อปปี้ ประเทศไทย มีจำนวนผู้ขายบนแพลทฟอร์มเพิ่มสูงขึ้นถึง 150 % เมื่อเทียบกับตัวเลขในปีก่อนหน้า
โดยตัวเลขของจำนวนผู้ขายที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่เฉพาะในหมวดหมู่สินค้ายอดนิยมอย่าง กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินค้าแฟชั่น และกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหมวดหมู่สินค้าเฉพาะกลุ่มอื่นๆที่มีจำนวนผู้ขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ ที่มียอดผู้ขายเติบโตสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้นกว่า 250% เมื่อเทียบกับตัวเลขในปีก่อนหน้า สอดรับกับแผนงานของช้อปปี้ในการพัฒนาหมวดหมู่สินค้าบนแพลทฟอร์มเพื่อตอบโจทย์นักช้อปคุณผู้ชาย
"อากาธา โซห์" หัวหน้าฝ่ายการตลาดช้อปปี้ กล่าวว่า " ในปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่ ช้อปปี้ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยความสำเร็จทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ขายทุกคนบนแพลตฟอร์ม ซึ่งช้อปปี้จะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ขายสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเรา ผ่านการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมไปถึงการริเริ่มกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนการทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายเพื่อส่งมอบข้อเสนอและดีลสุดคุ้ม พร้อมพัฒนากลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกคน”
ทั้งนี้ ช้อปปี้ ประเทศไทย ได้พบสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจ ที่สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้ขายบนแพลตฟอร์ม เช่น เช็คร้านก่อนเข้านอน: ช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้ขายล็อกอินบนแพลตฟอร์มสูงสุดคือ ระหว่าง 22.00 - 23.00 น. สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้ขายส่วนมากจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสรุปยอดจำนวนสินค้า การอัพเดทสินค้า การถามตอบลูกค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ของชิ้นเล็กซื้อง่าย ขายคล่อง โดยจากแคมเปญ Shopee 12.12 Birthday Sale ที่ผ่านมา สินค้าที่ขายได้สูงสุดด้วยผู้ขายรายเดียวคือ ถุงเท้าข้อสั้น โดยขายได้สูงถึง 47,879 ชิ้น ในปี 2561 สินค้าชิ้นเล็ก ๆ อย่างอุปกรณ์วางมือถือในรถยนต์ถูกจำหน่ายออกไปสูงถึง 17,691 ชิ้น และคนไทยชอบแชทก่อนช้อป ตัวเลขในปี 2561 พบว่ามีการส่งข้อความผ่านฟีเจอร์ “Shopee Live Chat” รวมทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านข้อความ ส่วนจังหวัดที่มีผู้ขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้มากที่สุดคือ จังหวัดสมุทรปราการ
อย่างไรก็ดีพบว่าคนไทยมีการช้อปสินค้าราคาสูงบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยสินค้าที่มีราคาสูงที่สุดที่ถูกจำหน่ายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ในปี 2561 ได้แก่ ฮาร์ดไดรฟ์อุปกรณ์เก็บข้อมูล LaCie มูลค่า 99,000 บาท จากร้าน Seagate Thailand Official Shop บน Shopee Mall
ทั้งนี้หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ช้อปปี้เน้นย้ำ คือการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ขายให้สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ซึ่งในปี 2561 ช้อปปี้ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ขายภายใต้หลักสูตร Shopee University โดยจัดไปแล้วถึง 27 ครั้ง และชั้นเรียนที่มีจำนวนผู้ขายเข้าร่วมสูงสุดคือ 800 ราย นอกจากนี้ช้อปปี้ได้จับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในท้องถิ่นจำนวนกว่า 5,500 ร้านค้าให้ได้จำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ SME Online ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในท้องถิ่นและกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านการเวิร์คช็อป แคมเปญและการฝึกอบรมต่างๆ
โดยตัวเลขของจำนวนผู้ขายที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่เฉพาะในหมวดหมู่สินค้ายอดนิยมอย่าง กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินค้าแฟชั่น และกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหมวดหมู่สินค้าเฉพาะกลุ่มอื่นๆที่มีจำนวนผู้ขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ ที่มียอดผู้ขายเติบโตสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้นกว่า 250% เมื่อเทียบกับตัวเลขในปีก่อนหน้า สอดรับกับแผนงานของช้อปปี้ในการพัฒนาหมวดหมู่สินค้าบนแพลทฟอร์มเพื่อตอบโจทย์นักช้อปคุณผู้ชาย
"อากาธา โซห์" หัวหน้าฝ่ายการตลาดช้อปปี้ กล่าวว่า " ในปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่ ช้อปปี้ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยความสำเร็จทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ขายทุกคนบนแพลตฟอร์ม ซึ่งช้อปปี้จะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ขายสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเรา ผ่านการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมไปถึงการริเริ่มกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนการทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายเพื่อส่งมอบข้อเสนอและดีลสุดคุ้ม พร้อมพัฒนากลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกคน”
ทั้งนี้ ช้อปปี้ ประเทศไทย ได้พบสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจ ที่สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้ขายบนแพลตฟอร์ม เช่น เช็คร้านก่อนเข้านอน: ช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้ขายล็อกอินบนแพลตฟอร์มสูงสุดคือ ระหว่าง 22.00 - 23.00 น. สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้ขายส่วนมากจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสรุปยอดจำนวนสินค้า การอัพเดทสินค้า การถามตอบลูกค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ของชิ้นเล็กซื้อง่าย ขายคล่อง โดยจากแคมเปญ Shopee 12.12 Birthday Sale ที่ผ่านมา สินค้าที่ขายได้สูงสุดด้วยผู้ขายรายเดียวคือ ถุงเท้าข้อสั้น โดยขายได้สูงถึง 47,879 ชิ้น ในปี 2561 สินค้าชิ้นเล็ก ๆ อย่างอุปกรณ์วางมือถือในรถยนต์ถูกจำหน่ายออกไปสูงถึง 17,691 ชิ้น และคนไทยชอบแชทก่อนช้อป ตัวเลขในปี 2561 พบว่ามีการส่งข้อความผ่านฟีเจอร์ “Shopee Live Chat” รวมทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านข้อความ ส่วนจังหวัดที่มีผู้ขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้มากที่สุดคือ จังหวัดสมุทรปราการ
อย่างไรก็ดีพบว่าคนไทยมีการช้อปสินค้าราคาสูงบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยสินค้าที่มีราคาสูงที่สุดที่ถูกจำหน่ายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ในปี 2561 ได้แก่ ฮาร์ดไดรฟ์อุปกรณ์เก็บข้อมูล LaCie มูลค่า 99,000 บาท จากร้าน Seagate Thailand Official Shop บน Shopee Mall
ทั้งนี้หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ช้อปปี้เน้นย้ำ คือการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ขายให้สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ซึ่งในปี 2561 ช้อปปี้ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ขายภายใต้หลักสูตร Shopee University โดยจัดไปแล้วถึง 27 ครั้ง และชั้นเรียนที่มีจำนวนผู้ขายเข้าร่วมสูงสุดคือ 800 ราย นอกจากนี้ช้อปปี้ได้จับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในท้องถิ่นจำนวนกว่า 5,500 ร้านค้าให้ได้จำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ SME Online ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในท้องถิ่นและกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านการเวิร์คช็อป แคมเปญและการฝึกอบรมต่างๆ
